พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [56. ยสวรรค] 10. อุปวานเถราปทาน
[130] หมู่เทพได้ขยายพระสถูปให้สูงขึ้นไปอีกหนึ่งโยชน์
ด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการ
พระสถูปองค์นั้นจึงมีความสูง 2 โยชน์
ซึ่งส่องสว่างขจัดความมืดได้
[131] ครั้งนั้น พวกนาคมาประชุมกัน ณ ที่นั้นแล้ว
ร่วมปรึกษากันว่า มนุษย์และเทวดาเหล่านั้น
ได้พากันสร้างพระพุทธสถูปเสร็จแล้ว
[132] พวกเราอย่าได้ประมาทกันเลย
มนุษย์และเทวดาไม่ประมาทกันแล้ว
ถึงพวกเราก็จักสร้างพระสถูป
เพื่อบูชาพระโลกนาถ ผู้คงที่
[133] พวกนาคพากันรวบรวมแก้วมรกต แก้วมหานิล
และแก้วมณีโชติรส ช่วยกันประดับพระพุทธสถูป
[134] ครั้งนั้น พระสถูปทั้งองค์ สำเร็จด้วยแก้วมณี
จนกระทั่งเป็นพุทธเจดีย์สูง 3 โยชน์ ส่องแสงสว่างไสว
[135] ครั้งนั้น พวกครุฑมาประชุมกันแล้ว
ร่วมปรึกษากันว่า มนุษย์ เทวดา
และนาคเหล่านั้นได้พากันทำพุทธบูชาแล้ว
[136] พวกเราอย่ามัวประมาทอยู่เลย
มนุษย์ นาค และเทวดาไม่ประมาทกันแล้ว
ถึงพวกเราก็จักสร้างพระสถูป
เพื่อบูชาพระโลกนาถ ผู้คงที่
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [56. ยสวรรค] 10. อุปวานเถราปทาน
[137] ครุฑเหล่านั้น ได้สร้างพระสถูป
ครอบพระสถูปแก้วมณีทั้งองค์
แม้พวกเขาก็ได้ขยายพระพุทธเจดีย์ให้กว้างไปอีกหนึ่งโยชน์
[138] พระพุทธสถูปสูงขึ้นไปอีก 4 โยชน์ รุ่งโรจน์
ย่อมส่องสว่างไปทั่วทุกทิศ ดุจดวงอาทิตย์อุทัย
[139] ครั้งนั้น พวกกุมภัณฑ์มาประชุมกันแล้ว
ร่วมปรึกษากันว่า มนุษย์ เทวดา
นาค และครุฑก็เป็นเหมือนกันหมด
[140] ต่างก็ได้พากันสร้างพระสถูปที่อุดมพวกละองค์
บูชาพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด
พวกเราอย่ามัวประมาทกันเลย
มนุษย์และเทวดาไม่ประมาทกันแล้ว
[141] ถึงพวกเราก็จักสร้างพระสถูป
เพื่อบูชาพระโลกนาถ ผู้คงที่
จักใช้รัตนะทั้งหลายประดับพระพุทธเจดีย์ให้กว้างออกไป
[142] กุมภัณฑ์แม้เหล่านั้น
ได้ขยายพระพุทธเจดีย์ให้กว้างออกไปอีกหนึ่งโยชน์
ครั้งนั้น พระสถูปจึงสูงขึ้นเป็น 5 โยชน์
ย่อมส่องแสงสว่างไสว
[143] ครั้งนั้น พวกยักษ์มาประชุมกัน ณ ที่นั้นแล้ว
ร่วมปรึกษากันว่า มนุษย์ เทวดา
นาค ครุฑ และกุมภัณฑ์
[144] ต่างก็ได้พากันสร้างพระสถูป
ที่ประเสริฐสุดพวกละองค์บูชาพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด
